ทุกวันนี้ในสถานที่ทำงาน ไม่ได้มีคนเพียงเจเนอเรชั่นเดียว แต่เป็นการคละกันระหว่างช่วงอายุที่แตกต่างกัน ทำให้ความคิดหรือทัศนคติมีความต่างกัน วันนี้เราจึงมาอธิบายวิธีรับมือ รวมถึงลักษณะเฉพาะตัวของคนแต่ละเจเนอเรชั่น เพื่อนำไปปรับใช้ในการทำงานกัน Silent Generation เกิดระหว่างปี 1925-1945 คนรุ่นนี้อายุน้อยที่สุดประมาณ 57 ปี เป็นคนรุ่นที่สามารถเข้ากันได้…
Google Analytics 4 ตัวช่วยหาลูกค้าตัวจริงเพื่อธุรกิจออนไลน์
Google Analytics เครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์ประเมินผลWebsite และApplicationได้อย่างทะลุปรุโปร่ง โดยการนำข้อมูลจากคนที่เข้าwebsiteมาวิเคราะห์เป็นสถิติต่าง ๆ ทั้งด้านภูมิประชากรศาสตร์ เช่น เพศ อายุ ความสนใจ และความชอบส่วนตัว หรืออาชีพของผู้เข้าชมเว็บ รวมถึงด้านพฤติกรรม เช่น อุปกรณ์ที่ใช้เข้าชมwebsite ช่วงเวลาที่อยู่บนwebsite เป็นต้น
โดยใน Google Analytics 4 เป็นเครื่องมือเวอร์ชันล่าสุด ที่ช่วยทำนายพฤติกรรมในอนาคตของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ และมีฟีเจอร์การเก็บข้อมูลอีกมากมายเช่น Acquisition ที่ช่วยบอกถึงผู้คนที่เข้ามาดูwebsiteของเราจากช่องทางไหนบ้าง ใช้เวลาบนwebsiteเฉลี่ยคนละกี่นาที โดยจะแปรผลออกมาในรูปแบบของ Engagement Rate, รายงานที่บอกภาพรวมการใช้งานwebsite เช่น คอนเทนต์ที่มีผู้ใช้งาน หรือสนใจมากที่สุด, รายงานที่บอกข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้าทั้งหน้าเก่า และหน้าใหม่, Demographic & Tech เป็นส่วนที่บอกข้อมูลทั่วไปของผู้ใช้งานwebsiteของเรา และอุปกรกรณ์ที่ใช้เข้าถึงwebsite สามารถนำไปใช้วิเคราะห์การยิง Ads โฆษณาให้ตรงกลุ่มยิ่งขึ้น รวมถึง Real Time Report คือการรายงานผลแบบเรียลไทม์ ทำให้รู้ว่าในช่วงเวลานี้มี User เข้ามาดูwebsiteของเรากี่คน อยู่ที่หน้าwebsiteไหนกันบ้าง หรือเข้ามาจากช่องทางใดบ้าง
📌 เข้าใจลูกค้าตลอด Journey เดิมทีการเก็บข้อมูลจะแยกกันระหว่างWebsite และApplicationทำให้ภาพของ Customer Journey จึงไม่ต่อเนื่องกัน ทำให้แบรนด์ไม่สามารถเห็นภาพลูกค้าเข้าใช้งานระหว่างWebsite และApplicationได้ชัดเจน ใน Google Analytics 4 จึงแก้ปัญหาด้วยการใช้ Event Based Model ทำให้แบรนด์สามารถเห็นภาพทั้ง Customer Journey ของลูกค้ารายบุคคล
📌 เก็บข้อมูลแบบ Realtime เดิมทีกว่าที่แบรนด์จะสามารถดึงข้อมูลจากWebsite และApplicationมารวมกัน แล้วระบุตัวตนได้ มักจะใช้เวลานาน เพราะต้องนำข้อมูลมาจัดระเบียบให้อยู่ในรูปแบบที่ Machine Learning สามารถอ่านข้อมูลได้ ซึ่งกระบวนการดังกล่าว ทำให้ข้อมูลบางส่วนหายไป แต่ใน Google Analytics 4 เปลี่ยนรูปแบบการเก็บข้อมูลเป็นรูปแบบของ Event Model ทำให้ดึงข้อมูลมาใช้ได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาจัดระเบียบข้อมูล
📌 เก็บข้อมูลเชิงลึกช่วยตัดสินใจ ปกติแล้วแบรนด์มักจะใช้ข้อมูลประชากรศาสตร์ และข้อมูลเชิงจิตวิทยา มาใช้ในการวิเคราะห์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวไม่สามารถช่วยให้นักการตลาด “ทำนาย” พฤติกรรมในอนาคตของลูกค้าได้ แต่ใน Google Analytics 4 จะช่วยแบรนด์ในการเก็บข้อมูลเชิงพฤติกรรม เช่น ข้อมูลการคลิกวีดีโอหรือดาวน์โหลดไฟล์ มาวิเคราะห์เพื่อทำนายสิ่งที่ลูกค้าจะทำในอนาคต เมื่อเเบรนด์เข้าใจลูกค้าจะสามารถ Take action ต่อไปได้
📌 วัดผลได้แม่นยำมากขึ้น ในยุคที่ผู้บริโภคสามารถกดเลือกยินยอม ในการเก็บข้อมูลเองได้ ไม่ว่าจะเป็น Ads Cookies , Analytics cookies แน่นอนว่าย่อมมีผู้บริโภคบางส่วนที่กดไม่ยอมรับให้แบรนด์สามารถนำข้อมูลของตัวเองไปใช้ได้ ทำให้แบรนด์ไม่สามารถเห็น Customer Journey ของลูกค้าท่านนั้นๆ ได้ นั่นเป็นที่มาของ Consent Mode ของ Google Analytics 4 ที่จะช่วยให้แบรนด์สามารถวัดผลแคมเปญที่ปล่อยออกไปได้อย่างแม่นยำขึ้นแม้ผู้บริโภคไม่ให้ความยินยอมให้เก็บข้อมูล โดยหากลูกค้าไม่กด Consent แบรนด์ก็ยังคงไม่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลมา แต่จะเก็บข้อมูลออกมาในรูปแบบ Aggregate level ซึ่งไม่ระบุตัวตนของลูกค้าท่านนั้นๆ ผ่านการใช้ Machine Learning
——————————–
หากคุณกำลังมองหาที่ปรึกษาและ บริษัทเอเจนซี่ สร้างยอดขายทะลุเป้าแบบก้าวกระโดด ติดต่อเราเพื่อให้ธุรกิจของคุณไปสู่เป้าหมายที่ใฝ่ฝัน
ติดต่อปรึกษา บริษัทเอเจนซี่ :: 094-616-3651
Line OA : @Unicronet
#Unicronet #PerformanceMarketing #DigitalAgency #บริษัทเอเจนซี่